img
ACS Group [TH]

Articles & News

img

Factors for choosing air filter

ปัจจุบัน เทคโนโลยีในการกรองอากาศมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เปรียบเทียบได้จากเมื่อก่อน เราอาจจะยังไม่เคยได้ยินคำว่า HEPA filter ด้วยซ้ำ เวลาเราจะเลือกซื้อแผ่นกรองอากาศสักชิ้น เราก็อาจไม่แน่ใจเกี่ยวกับรายละเอียด หรือ ประสิทธิภาพของมัน ว่าสามารถตอบโจทย์เราได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้นวันนี้เราจะมาดูเกี่ยวกับปัจจัยการเลือกซื้อแผ่นกรองอากาศ

  • ปัจจัยที่ 1 ความสามารถในการกักเก็บฝุ่น (Dust Holding Capacity: DHC)
เป็นค่าที่บ่งบอกถึงปริมาณการกักเก็บฝุ่นของเนื้อกรอง มีหน่วยเป็น กรัม (g) หรือ กิโลกรัม (kg) ค่า DHC สามารถบอกถึงอายุการใช้งานของฟิลเตอร์กรองอากาศแต่ละชนิดได้เมื่อเปรียบเทียบที่ปริมาณความสามารถในการกักเก็บฝุ่น เช่น ในสภาวะแวดล้อมเดียวกัน แผ่นกรองที่มีค่า DHC มากกว่าจะมีอายุการใช้งานได้นานกว่าฟิลเตอร์ที่มีค่า DHC ที่น้อยกว่า

  • ปัจจัยที่ 2 ปริมาณลม (Air Flow)
เนื่องจากฟิลเตอร์ที่ดีจะต้องมีคุณสมบัติที่ยอมให้มีปริมาณลมที่ผ่านเส้นใยเนื้อกรองได้สูงต่อหนึ่งหน่วยพื้นที่เป็นลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง (CMH= Cubic meter per hour) โดยทั่วไปแล้วแผ่นกรองขั้นต้นและขั้นกลางสามารถยอมให้ปริมาณลมผ่านได้ถึง 3400 CMH ในขณะที่ฟิลเตอร์ขั้นสุดท้ายจะอยู่ที่ 1200 CMH บางรุ่นที่มีการเพิ่มพื้นที่เนื้อกรองจะสามารถรับปริมาณลมได้ถึง 4250 CMH ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับPressure drop นั้นๆ

  • ปัจจัยที่ 3 ความดันตกคร่อม (Pressure Drop)
ฟิลเตอร์กรองอากาศที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงต้องมีค่าแรงต้านหรือความดันตกคร่อมที่ต่ำในการพัฒนาแผ่นกรองให้มีประสิทธิภาพสูงและมีค่าความดันตกคร่อมต่ำ
ความดันตกคร่อมเริ่มต้น (Initial Pressure Drop)เป็นค่าความดันเริ่มต้นเมื่อฟิลเตอร์สะอาด
ความดันตกคร่อมเฉลี่ย (Average Pressure Drop) เป็นค่าที่ใช้ในการคำนวณการเลือกขนาดของพัดลม
ความดันตกคร่อมสุดท้าย (Final Pressure Drop) เป็นค่าความดันสุดท้าย ที่สามารถบอกถึงจุดที่ฟิลเตอร์จะเริ่มตัน

  • ปัจจัยที่ 4 อายุการใช้งานของฟิลเตอร์กรองอากาศ 
ในการเลือกฟิลเตอร์กรองอากาศต้องคำนึงถึงอายุการใช้งานของแผ่นกรองว่ามีอายุการใช้งานได้นานแค่ไหน โดยทั่วไปแล้ว ผู้ผลิตจะมีการกำหนดอายุการใช้งานตามประสิทธิภาพของฟิลเตอร์
แผ่นกรองขั้นต้นที่มีประสิทธิภาพ 25-30% มีอายุการใช้งานอยุ่ที่ 3-6 เดือน
แผ่นกรองขั้นกลางที่มีประสิทธิภาพ 45-95%มีอายุการใช้งานอยุ่ที่ 3-6 เดือน
แผ่นกรองขั้นสุดท้ายที่มีประสิทธิภาพมากกว่า 98%มีอายุการใช้งาน6-12 เดือน
อย่างไรก็ตามอายุการใช้งานของฟิลเตอร์ยังขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม ปริมาณฝุ่นและการบำรุงรักษา หากมีการเปลี่ยนฟิลเตอร์ขั้นต้นและขั้นกลาง จะช่วยยืดระยะการใช้งานของฟิลเตอร์กรองละเอียดได้นานขึ้นมากกว่า 1 ปี

  • ปัจจัยที่  5 พื้นที่เนื้อกรองอากาศ (Media Area)
พื้นที่เนื้อกรอง หน่วยเป็นตารางเมตร (m2) พื้นที่ของเนื้อกรองอากาศมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพการกรองเป็นอย่างมาก เนื่องจากฟิลเตอร์ที่ดีต้องมีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่นที่สูง ทำให้ต้องมีพื้นที่เนื้อกรองมากตามไปด้วย ในการเพิ่มพื้นที่เนื้อกรองสามารถเพิ่มโดยการเพิ่มจำนวนจีบ (pleat) ของแผ่นกรองให้มีปริมาณมากขึ้น จะช่วยเพิ่มเนื้อกรองให้กับฟิลเตอร์ทำให้เพิ่มความสามารถในการกักเก็บฝุ่นได้ในปริมาณมาก ดังนั้นการพิจารณาแผ่นกรองจากพื้นที่เนื้อกรองจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง

  • ปัจจัยสุดท้าย มาตรฐานการตรวจสอบและรองรับฟิลเตอร์กรองอากาศ (Certification)
ฟิลเตอร์กรองอากาศที่ดีต้องผ่านมาตรฐานการทดสอบว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ตามตัวแปรต่างๆเช่น มีประสิทธิภาพในการจับฝุ่นที่อนุภาคต่างๆ (Efficiency), มีค่าความดันตกคร่อมเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด (Pressure drop), อัตราการไหลของลม (Air flow rate) เป็นต้น

จากปัจจัย 6 ข้อข้างต้น ทำให้เราสามารถตัดสินใจในการเลือกซื้อแผ่นกรองอากาศได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถยืดระยะเวลาการใช้งานของแผ่นกรองอากาศได้ดีขึ้นอีกด้วย

สนใจสินค้าสามารถติดต่อ

☎️ : + (66) 094 405 5599

📩 : official.acsgroup@gmail.com

LINE : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=935sjjej

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor

Powered by Froala Editor